** นิวโลว์รอบ 14 เดือน!! โดย อินเด็กซ์ 51 **
28 ก.ค. 2558
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 ก.ค.58 ปิดที่ 1,412.55 จุด ลดลง 25.53 จุด ทำนิวโลว์ในรอบ 14 เดือน นับตั้งแต่ พ.ค.57 ขณะที่มีมูลค่าการซื้อขาย 40,259.54 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,504.56 ล้านบาท
หุ้นไทยร่วงแรง ทำนิวโลว์ในรอบปีต่อเนื่อง จากแรงกดดันทั้งในและต่างประเทศ ตัวเลขส่งออกติดลบ 7.87% มากกว่าที่คาด ส่วนปัจจัยต่างประเทศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของจีนและสหรัฐฯย่ำแย่ กดดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีนปิดร่วง 8.48% ท่ามกลางราคาน้ำมันทรุด หลุด 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง ถ่วงหุ้นพลังงานร่วงต่อ
บล.โนมูระ พัฒนสิน หวังหุ้นไทยรีบาวด์ทางเทคนิค หลังปรับตัวลงแรง แต่ยังมีโอกาสปรับลงได้ต่อ เพราะช่วงนี้มีแต่ข่าวลบ ขาดปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาหนุน นักลงทุนหวังรัฐออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งลงทุนเมกะโปรเจกต์
แต่ดัชนีที่ระดับ 1,410 จุด ส่งผลให้ค่า Equity risk premium ของการลงทุนในหุ้นเท่ากับ 5.19% เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งทุกครั้งที่เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว มักจะเห็นการฟื้นตัวของดัชนี เช่น เมื่อครั้งวิกฤติซับไพรม์ และน้ำท่วมใหญ่ปี 54
แนะกลยุทธ์เลือกซื้อหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาดี เช่น PLANB-TVT-SPA และหุ้นที่มีปันผลดี อาทิ ADVANC-INTUCH-LPN
ปิดท้ายมีข่าว “อารยา คงสุนทร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) มั่นใจราคาหุ้นเข้าเทรดวันแรก 28 ก.ค.ได้รับความสนใจจากนักลงทุน และราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นเหนือราคาจอง IPO ที่ราคา 2.10 บาท เพราะเป็นราคาที่มีส่วนลดให้นักลงทุนมากถึง 44% เมื่อเทียบกับราคาในกลุ่มอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ซึ่งมี P/E เฉลี่ยที่ 37 เท่า ขณะที่มีนักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นของบริษัทจำนวนมาก
ที่สำคัญ มั่นใจว่าหุ้นของบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานดี ฐานะการเงินแข็งแกร่งมีหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำกว่า 0.5 เท่า ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตสูง จากแผนการให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ทั้งการนำเข้าและส่งออก โดยบริษัทให้บริการรับจัดการขนส่งทางทะเลครอบคลุมท่าเรือหลักในเขตการค้าสำคัญในประเทศต่างๆ
ซึ่งตลาดหลักยังคงเป็นตลาดสหรัฐอเมริกา และตลาดหลักรองลงมา คือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และจีน
เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ 350 ล้านบาท จะใช้ซื้อรถบรรทุกหัวลาก -หางพ่วง และใช้ขยายลานจอดรถบรรทุกหัวลาก-หางพ่วง รวมทั้งพัฒนาระบบสารสนเทศ และลงทุนคลังสินค้าแหลมฉบัง จ.ชลบุรี พื้นที่ 9,000 ตาราง-เมตร คาดจะเริ่มเปิดบริการเชิงพาณิชย์ได้ปี 60 ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20%
** สังคมข่าวหุ้น **
28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาด 1,412.55 จุด ลดลง 25.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40,259 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,504 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศขายสุทธิ 917 ล้านบาท ต่างจากลมปากผู้จัดการกองทุนต่างๆ ออกมาระบุว่า “หุ้นถูกซื้อได้แล้ว” แต่กลายเป็นว่า “กองทุนขายไม่หยุด” แบบนี้จะเรียกว่า “หลอกขาย” อย่างชัดเจน
****หุ้นCHO ขานรับข่าวดีบอร์ดขสมก.มีมติอนุมัติผลประมูลรถเมล์ NGV เรียบร้อยแล้ว และระบุชัดว่าภายใน 3 วัน หากไม่มีใครคัดค้าน พร้อมเซ็นสัญญาภายในเดือนส.ค.นี้...ปัญหามันอยู่ว่ากรณี “เบสท์ริน กรุ๊ป” (ผู้แพ้ประมูล) ยื่นร้องศาลปกครอง ให้ไต่สวนฉุกเฉินสรุปอย่างกันแน่...เพราะแม้ขสมก.ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว...งานนี้รอกันไปเถอะยาวแน่
****หุ้นKASET ร้อนแรงแบบผิดสังเกต...ดูจากพื้นฐานไม่มีอะไรน่าอภิรมย์ P/E ก็ไม่มี..ผลตอบแทนจากเงินปันผลก็ไม่มี..จึงไม่มีอะไรที่จะเกิดปาฏิหาริย์ให้ราคาวิ่งแบบร้อนแรง...นอกเหนือไปจากเก็งกำไรช่วงตลาดหุ้นโดยรวมขาลงเท่านั้นเอง
****หุ้นGENCO ช่วงต้นเดือนเก็งกำไรกันสะบัดช่อ..แต่ตอนนี้ไหลรูดลงมาอย่างต่อเนื่อง...เรียกว่า “จ้าวออกของ” กันหมดแล้วและขึ้นอยู่กับว่า “จ้าวใหม่” จะเข้ามาปลุกปั่นด้วยสตอรี่อะไรกันอีกนอกเหนือจากสตอรี่ “โรงไฟฟ้าขยะ” ที่กำลังหมดสภาพไปแล้ว
***หุ้น JAS ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นราคาลงมาเยอะจนน่าสนใจ เพราะเมื่อดูจากพื้นฐานดีทุกอย่าง ยกเว้นราคาหุ้นไม่ไปไหนซะที P/E แค่ 2.33 เท่า ถือว่าต่ำสุดในกลุ่มสื่อสาร...ล่าสุดงบไตรมาส 2/58 ออกมากำไรดี๊ดีกว่า 1,000 ล้านบาท แต่หุ้นกลับปรับตัวลงซะงั้น..เฮ้อไม่รู้ไปโดนของอะไรมาเนี่ย..!?*
***หลังจาก IFEC-W2 ราคาร้อนระอุมาหลายวัน จึงถูกสั่ง Cash Balance ตั้งแต่ 28 ก.ค.-14 ส.ค. 58 ต้องดูว่าจะดับความร้อนแรงได้สักกี่มากน้อย
****หุ้น WICE น้องใหม่ป้ายแดง เข้าเทรดวันนี้ (28 ก.ค.) จากราคาจอง 2.10 บาท และเมื่อเทียบมาตรฐานหุ้นHPT วันนี้มีโอกาสเห็น 4 บาทได้เช่นกัน เพราะราคาไอพีโอมีส่วนลดกว่า 40% เลยทีเดียว แถมชื่อชั้น “วิชา โตมานะ” จากบล.ฟิลิป (ประเทศไทย) ไม่น่าทำให้นักลงทุนผิดหวังแน่
** รุมทึ้ง 2015-07-28 **
เจาะกระดานหุ้น: โมนิก้าและทีมงาน
*ตรรกะของการลงทุนในเที่ยวนี้ไม่มีอะไรมากมายต้องขบคิด เพราะมีการตั้งธงไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ต่างชาติยังจะขายหุ้นไทยต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ส่วนกองทุนจะหันมาเทรดสั้นๆ เพื่อความคล่องตัว ขณะที่ปอบผีฟ้าจะอาศัยจังหวะตีกินไปเรื่อยๆ ล้วนเป็นสถานการณ์ที่นักลงทุนรายย่อยรู้เป็นอย่างดี แต่ยังเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นต่อไปอย่างไม่ลดละ มันเป็นการโดนรุมกินโต๊ะแบบเต็มใจนะเนี่ย
*สถานการณ์ตรงนี้เหมือนกับคำพังเพย “น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ” เงินบนหน้าตักแมงเม่ามิอาจสู้เงินบนหน้าตักกองทุน ดัชนีถึงได้รูดลงอย่างต่อเนื่อง จากช่วงต้นปียืนอยู่ที่ 1,600 จุด ไปๆ มาๆ เทรดกันอีท่าไหนก็ไม่รู้ ดัชนีลงมากองอยู่แถว 1,400 จุด แถมวานนี้โดนสาดหุ้นออกมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น ส่งผลให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,412.55 บาท ลบไป 25.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท เดี๊ยนชักใจคอไม่ค่อยดีแล้วนะคะ
*เนื่องจากการลงเที่ยวนี้เป็นการลงทุนแบบมีวอลุ่ม และตามตำราที่เล่าเรียนมาพูดเหมือนกันว่า หุ้นมีโอกาสลงต่อค่อนข้างสูง หรือถ้าดีขึ้นมาหน่อย อาจเด้งขึ้นก่อนไหลลงต่อ ซึ่งความน่าจะเป็นในเที่ยวนี้ คงค่อนไปอย่างหลังมากกว่า เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น หลังสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศแย่กว่าที่คิดไว้นะซี
*นาทีนี้ไม่ต้องถามถึงหุ้นกลุ่มเบญจภาคีชั้นนำให้เสียเวลา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นวานนี้เป็นการตอกย้ำว่า ขายทุกเม็ด และขายทุกราคา โอกาสที่หุ้นจะกลับขึ้นมายืนอยู่ที่เดิมเป็นเรื่องเพ้อฝันในทันที ขนาดหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ใครหลายคนฟันธงว่า ถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เอาเข้าจริงกลับมีราคาที่ถูกกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มผู้นำอย่าง KBANK SCB BBL กลายเป็นหุ้นที่ไม่มีหูรูดไปเสียฉิบแบบนี้..อย่าเข้าไปยุ่งเป็นดีที่สุดเจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” รู้สึก sad ไม่แพ้กันก็คือ SCC โดนเหมาหางเลขไปกับเขาด้วยแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นความเสี่ยงที่อยู่นอกเหนือการควบคุม และดูเหมือนว่า รอบนี้จะหนักหนาสาหัสกว่ารอบที่แล้ว ทิศทางของหุ้นในช่วง 3 เดือนหลังสุดถึงเป็นแบบ sideway down จากหุ้นที่เคยมีราคาค่างวดอยู่ที่ 550 บาท วันนี้เหลือค่าตัวแค่ 506 บาท แถมวานนี้ลงมาทำ low ที่ระดับ 498 บาทในรอบ 5 เดือน เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า มีสิทธิ์ได้เห็นราคาต่ำกว่านี้ในไม่ช้านะจะบอกให้
*ขนาดยักษ์ใหญ่วงการก่อสร้าง ITD ซึ่งเป็นแหล่งรวมขาใหญ่ นักลงทุนสถาบัน ยังเอาตัวไม่รอด “โมนิก้า” ถือเป็นตัวอย่างที่นักเล่นต้องหัดทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อจะได้กำหนดท่าทีของการเข้าซื้อจะเป็นแบบ “ทยอยสะสม” หรือ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” หลังโดนทิ้งจนลงมากองอยู่ที่ 7.10 บาท ลบไป 0.45 บาท หรือลงไป 6% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับจุดเด้งกลับ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ที่บริเวณ 7 บาทไงล่ะค่ะ
*สำหรับในรายของ AJD ก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเหล่านักเล่นพอสมควร เมื่อจู่ๆ หุ้นเด้งสวนภาวะตลาดขาลงมาปิดที่ 0.97 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 15.50% ด้วยมูลค่า 170 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งช็อตที่นักเล่นสั้นต้องเกาะกระแสให้ทันตลอดเวลา เพราะในช่วงหลังมักเห็นมีแรงซื้อเข้ามาดันหุ้นขึ้นมายืนเหนือ 1 บาทเป็นประจำ จึงต้องสอดส่ายสายตาดูกันต่อไปอีกระยะหนึ่งนะจ๊ะ
*ส่วนรายที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง “โมนิก้า” กลับพุ่งเป้าไปที่หุ้นขยะ GENCO ซึ่งก่อนหน้านี้ทุกคนมองว่าเป็น หุ้นดาวรุ่งพุ่งแรงประจำปี พอเวลาทอดยาวไปเรื่อยๆ แผนงานต่างๆ ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม บวกกับขาใหญ่เริ่มสละเรือ ทีละราย.. สองราย หุ้นถึงได้ดิ่งเหวอย่างที่เห็นกันนี่แหละ จากช่วงต้นปีอยู่ที่ 7 บาท วันนี้เหลือมูลค่าแค่ 2.06 บาท บวกกับไตรมาส 1 ขาดทุนไป 6 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2 ยังลูกผีลูกคน งานนี้เหนื่อยแน่ๆ เจ้าค่ะ
*ตัวอย่างที่ชัดเจนสุดในเรื่องข้างต้นคือ DAII ของมันเห็นกันอย่างชัดแจ้งแดงแจ๋ว่า หุ้นขึ้นมาเที่ยวนี้เกิดจากกำลังภายใน ไม่ได้เกิดจากแรงขับเคลื่อนภายนอก บวกกับวันแรกที่เข้าเทรดโชว์พลังโอเว่อร์เกินไปหน่อย สุดท้ายเลยมีจุดจบไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่..ก่อนหน้านี้หนึ่งวันรูดลงไป 28% ขณะที่วานนี้รูดลงไปอีก 21% หรือลงไป 1.80 บาท พร้อมกับลงมาปิดที่ 6.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.40 พันล้านบาท เล่นกันไปทั้งหมด 5 รอบแบบนี้..แมงเม่าตายเป็นเบือแน่นอนเจ้าค่ะ
*สำหรับในรายของคาสโนวาฆ่าไม่ตายอย่าง ASIMAR ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตเด็ดที่ต้องตามดูกันต่อไปเรื่อยๆ เพราะข่าวจริงที่ปรากฏเป็นหลักฐานยืนยันชัดเจนยังไม่เกิดขึ้น ความคลุมเครือของเรื่องราวต่างๆ ถึงยังดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักเสี่ยงโชคเข้ามาเล่นกันอย่างเมามัน วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.30 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ทั้งที่ในระหว่างวันร่วงลงไปแตะ 2.88 บาท..มันคืออะไร ไปหาคำตอบกันเอาเองนะค่ะ
** สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ทันหุ้น ฉบับวันที่ 28 ก.ค. 2558 **
WICEหุ้นดีพื้นฐานเด่นปักหมุดรายได้พุ่ง20%
WICE มั่นใจเทรดวันแรกยืนเหนือจอง ตอกย้ำพื้นฐานแกร่ง ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ปักหมุดรายได้ทั้งปีโต 20% จากปีก่อน 670 ล้านบาท ส่วนแผน 3 ปี (57-59) เตรียมโกยรายได้เข้ากระเป๋าปีละ 20% พร้อมขอรักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้ให้ใกล้เคียงกับปีก่อน 9-10%
TFDถึงเวลาเทิร์นอะราวด์แรงผุดแผนซื้อหุ้นคืน-แจกวอร์
TFD ถึงเวลาแรง คอนเฟิร์มปี 2558 พลิกมีกำไร หลังมีสินทรัพย์-นิคมฯ ชั้นพรีเมียมรอบุ๊กเป็นกำไรและรายได้เพียบ พร้อมการันตีปี 2559 โชว์กำไรก้าวกระโดด "อภิชัย เตชะอุบล" กางแผนซื้อหุ้นคืน 10% -ลดทุน-แถมแจกวอร์แรนต์ โวราคาหุ้นถูกสวนทางพื้นฐานเทิร์นอะราวด์ ฟากโบรกแนะสอย TFD ซ่อนมูลค่ากำไรรอรับรู้กว่า 1 หมื่นล้านบาทเคาะราคาเบื้องต้น 6 บาท
ส่องหุ้นหลบภัยสะสมADVANC INTUCHยิลด์สูง
ส่องหุ้นหลบภัยครึ่งปีหลัง โบรกประสานเสียงเชียร์หุ้น ADVANC-INTUCH ดักรับปันผลให้ยิลด์สูงเกิน 5% เก็งข่าวประมูล 4G สอย KBANK เข้าพอร์ตราคาหุ้นต่ำในรอบปี ด้าน AEONTS ไม่น้อยหน้าติดชั้นหุ้น Growth Stock ลุยลงทุน PSL-TTA อานิสงส์ค่าระวางเรือ ส่วน TCMC ปรับโครงการธุรกิจปี 2558 อัพกำไรโตแรง มองกรอบดัชนีลุ้นไฮเดิม 1,685 จุด
CHOWฮุบโซลาร์ญี่ปุ่น เปิดกรุรับทรัพย์42MW
CHOW จ่อคว้าโซลาร์ญี่ปุ่นเพิ่ม 42 เมกะวัตต์ ส่วนโซลาร์ในประเทศหวังกวาดใบอนุญาตให้ได้ 15 เมกะวัตต์ หลังคว้าได้แล้ว 6 เมกะวัตต์ คาด COD สิ้นปี 2558 ส่งซิกงบครึ่งปีหลังแจ่มกว่าครึ่งปีแรก เล็งรับทรัพย์ 60 ล้านบาท ส่วนปี 2559 โกยรายได้พลังงานเต็มเม็ดเต็มหน่วย โบรกมองต้าน 6.60 บาท
GPSCผนึกพาร์ตเนอร์ลุยพม่า สยายปีกโรงไฟฟ้า2,000MW
GPSC จ่อผนึกพาร์ตเนอร์ขยายฐานพม่า ตั้งป้อมลุยโรงไฟฟ้า 2000 เมกะวัตต์ ฟากโบรกเกอร์ ชี้ดีลร่วม Marubeni Corporation-EDEN Group หนุนอนาคตแจ่ม เชียร์ "ซื้อ" อนาคต 33.00 บาท
TWZผุดคอนโดพัทยาเสริมพอร์ตรับทรัพย์ย้ำปีนี้รายได้5พันล.
TWZ จ่อผุดคอนโดพัทยามูลค่าราว 500 ล้านบาท เสิรมพอร์ตรายได้ปี 2559 ชูจุดเด่นระบบสาธารณูปโภคครบครัน เชื่อกระแสตอบรับแจ๋ว พร้อมย้ำเป้าปี 2558 รายได้ตามเป้า 5 พันล้านบาท หลังรุกขยายฐานใหม่ต่อเนื่องแถมจัดทัพบุกตลาด AEC ปูทางโกยเงินต่างแดนเพิ่ม
EASONครึ่งหลังอลังการงานเรียงคิวอื้อ-ลุ้น3.46บ.
EASON ฟุ้งผลงานครึ่งหลังปี 2558 กระหึ่ม! ออเดอร์เรียงคิวบุ๊กเพียบ ส่วนปีนี้ย้ำเป้ารายได้พุ่ง 10% จากปีก่อนที่ราว 503 ล้านบาท รับดีมานด์ทะลักอื้อซ่า บิ๊ก "เพชรรัตน์ เอกแสงกุล" ปรับพอร์ตหันลุยต่างแดนเต็มสูบวางหมากยอดส่งออกปีนี้แตะ 20% ฟากโบรกเกอร์ แนะ "เก็งกำไร" มองไกล 3.46 บาท
ABC-W2 เทรดวันนี้รุกขยายธุรกิจเต็มสูบครึ่งหลังอสังหาโตแรง
ABC ได้ฤกษ์ดีส่ง ABC-W2 เข้าเทรดวันแรก 28 ก.ค.นี้ มั่นใจกระแสตอบรับคึกคักหลังมีแผนธุรกิจชัดเจนมีเงินสดพร้อมลุยธุรกิจหลังได้เงินเพิ่มทุนแล้ว 700 ล้านบาท โชว์แผนธุรกิจปีนี้เน้นอสังหาริมทรัพย์ดันผลการดำเนินงานเทิร์นอะราวด์ ส่วนระยะยาวสร้างฐานรายได้จากเอ็มคอมเมิร์ซหลังจับมือสถาบันการเงินสร้างนวัตกรรมใหม่ใช้คะแนนสะสมยัตรเครดิตและคะแนนอื่นๆ เปลี่ยนเป็น abcpoint ใช้แทนเงินสดเจาะกลุ่มช็อปปิ้งออนไลน์ แบบสบายกระเป๋า
TRCระดมทุน726ล้านบาท ซื้อหุ้นเหมืองโปแตชเพิ่ม
TRC ระดมทุน 726 ล้านบาท ขายหุ้น PP ให้นักลงทุน 16 ราย ราคาหุ้นละ 2.20 บาท เพื่อใช้ลงทุนถือหุ้นเหมืองโปแตชเพิ่มเป็น 20-24% จากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 4.27% พร้อมออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท และออกวอร์แรนต์ ให้กับบุคคลในวงจำกัด ที่ได้จองซื้อหุ้นกู้ (TRC-W1) จำนวนไม่เกิน 675 ล้านหน่วย
'JAS' ไตรมาส 2 งบพุ่ง 14% โบรกส่องพื้นฐานแข็งแกร่ง
JAS ไตรมาส 2/58 กำไร 1.01 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาส 2/2557 ส่วนงวดครึ่งปีกำไร 1.38 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 693% จากปีก่อน ผลจากบันทึกกำไรขายสินทรัพย์เข้ากองทุน โบรกสั่งลุยพื้นฐานแจ่ม
SIRIตุนคอนโดกินยาวรับทรัพย์ทั้งปี2.2หมื่นล.
SIRI ประกาศคงเป้ายอดขายคอนโดมิเนียมปีนี้ 2.2 หมื่นล้านบาท หลังโกยเข้าพอร์ตแล้ว 1 หมื่นล้านบาท จาก Backlog ที่ตุนไว้เต็มมือ ฟุ้งรับรู้รายได้ในปีนี้ 1.5 ล้านบาท ที่เหลือทยอยรับรู้ยาวถึงปี 2560 พร้อมเผยแผนร่วมมือพันธมิตร BTS ผุดโครงการใหม่อีกเพียบ กูรูส่องอนาคตแจ่ม ระหว่างรอปรับประมาณการใหม่ เชียร์ "ซื้อ" จัดราคา 2.30 บาท
SPA ปิดดีลเทคบ้านสวนลุยสปา 3 ดาว-เป้า 7.85 บ.
SPA ฤกษ์ดีจรดปากกาเซ็นสัญญาซื้อทรัพย์สินและเครื่องหมายทางการค้าของบ้านสวน มาสสาจ จำนวน 4 สาขา มูลค่ากว่า 45 ล้านบาท จ่อรับรู้รายได้ดีลนี้ตั้งแต่ วันที่ 1 สิงหาคม 2558 เชื่อหนุนผลงานพุ่งพรวด 55% จากปีก่อน ฟากโบรกส่องผลงาน Q2/2558 สดใส กำไรโตแรงเฉลี่ย 76% แนะ "ซื้อ" เคาะเป้าไกล 7.85 บาท
PKลั่น!พร้อมเทรดมั่นใจพื้นฐานแกร่งวางเป้ากำไรโตฉลุย
PK ส่งหุ้นหวนเทรดกระดาน SET ลั่นไม่หวั่นตลาดหุ้นปรับตัวผันผวน มั่นใจนักลงทุนตอบรับ หลังมองเป็นหุ้นพื้นฐานดีและมีมูลค่าทางบัญชี (BV) สูงกว่า 2 บาท พร้อมเผยปีนี้ยังมีกำไร แต่ลดลงตามรายได้รวมที่คาดว่าจะลดลง 10% จากปีก่อน
CPALLเด็ดสุดกลุ่มค้าปลีก อวดงบไตรมาส2โต39%
คัดหุ้นกลุ่มค้าปลีกเด่น Q2/2558 จับตา CPALL แกร่งสุดคาดมีกำไรโต 39.5% จากปีก่อนที่กำไร 1,893 ล้านบาท จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม อัตรากำไรดีขึ้น คาดครึ่งปีหลังจะพลิกฟื้นอย่างแข็งแกร่ง ได้โปรโมชั่นแสตมป์ช่วยหนุน เคาะราคาเป้าหมาย 53 บาท
T บุ๊กแฮร์คัทหนี้ก้อนโต 40ล.ดันงบ Q2 พลิกกำไรอลังการ
T แก้มปริ เจ้าหนี้ไฟเขียวลดหนี้-ปรับโครงสร้างฉลุยบุ๊กรายการพิเศษก้อนโตไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท หนุนผลงาน Q2/2558 เทิร์นอะราวด์แรง ด้านเอ็มดี "ทรรศิน จงอัศญากุล" ปักธงปี 2558 ผลงานพลิกเป็นกำไร อานิสงส์ Backlog บุ๊กเพียบ แถมมีแววได้งานใหม่ตรึม พร้อมซุ่มแตกไลน์โรงงานไฟฟ้าในลาว ขยายช่องโกยเงินเพิ่มส่วนดีลการเข้าซื้อโรงแรมในอังกฤษ คาดชัดเจน Q3 นี้ โบรกส่องแนวต้าน 0.36 บาท
BRRขยายพื้นที่ปลูกอ้อย2แสนไร่ดันยอดน้ำตาลพุ่ง
BRR ขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มเป็น 200,000 ไร่ พร้อมชูการวิจัยและพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพอ้อยให้ได้ผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันสูงขึ้นกว่าเดิม เล็งใช้กากอ้อยรองรับธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 3 ต่อยอดรายได้และกำไรขยายตัวต่อเนื่อง
ASEFAเคาะไอพีโอ3.70บ.ลั่นพื้นฐานเติบโตแข็งแกร่ง
ASEFA กำหนดราคา IPO ที่ 3.70 บาท/หุ้น ระดมทุน 555 ล้านบาทเพื่อต่อยอดธุรกิจใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนขยายโรงงาน รองรับการให้บริการที่ครอบคลุม รวมทั้งคืนหนี้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน "ไพบูลย์ อังคณากรกุล" ลั่นศักยภาพบริษัทดี พื้นฐานแข็งแกร่ง เชื่อไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง
ตลาดหุ้นไทยผันผวนหนัก KTAM ชวนลงทุน RMF/LTF
KTAM ชี้ตลาดหุ้นไทยผันผวนหนัก ดัชนี SET INDEX ปรับตัวลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุดของปีที่ 1,615.89 จุด ในเดือนกุมภาพันธ์ ถึงจุดต่ำสุดที่ 1,430.22 จุด เผยหุ้นกลุ่มแบงก์ยังแข็งแกร่ง ส่วนครึ่งปีหลังมองยังมีปัจจัยบวกหนุนกำไรบริษัทจดทะเบียน แนะนักลงทุนจับจังหวะทยอยลงทุนกอง RMF/LTF
'CIMBT'สวนทางศก.โลนรายใหญ่พุ่ง15-20%
CIMBT ลั่นปี 2558 คงเป้าสินเชื่อรายใหญ่เติบโต 15-20% แม้เศรษฐกิจในประเทศชะลอ แต่ลูกค้ารายใหญ่ยังมีความต้องการขยายการลงทุนไปต่างประเทศ ด้าน "พรชัย ปัทมินทร" มั่นใจคุม NPL ไม่เกิน 2% ส่งซิกงาน IB ในมือสูง 25-30 ดีล มูลค่าระดมทุนรวม 7-8 หมื่นล้านบาท หนุนค่าธรรมเนียม และรายได้ทะลุเป้า
** กระแสกังวลตลาดทุนจีนฉุดน้ำมันลง-หุ้นสหรัฐฯร่วง ทองคำบวก
นักลงทุนจ้องมองกระดานหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จีน ขณะที่หุ้นจีนเปิดตลาดวันแรกของสัปดาห์ร่วงลงกว่า 8% เมื่อวันจันทร์ (27 ก.ค.) ถือเป็นการตกแรงที่สุดในวันเดียวในรอบระยะเวลากว่า 8 ปี ซ้ำดึงตลาดหุ้นทั่วเอเชียดิ่งตามกัน ท่ามกลางความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจแดนมังกร
เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันขยับลง 4 วันติดเมื่อวันจันทร์(27ก.ค.) และวอลล์สตรีทร่วงหนัก ตามหลังตลาดหุ้นจีนตกแรงที่สุดในวันเดียวในรอบระยะเวลากว่า 8 ปี กระพือความกังวลต่อเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกแห่งนี้ ขณะที่ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ดันทองคำปิดบวก
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 47.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดหุ้นจีนที่สงบมาได้ระยะหนึ่ง หลังจากทางการระดมมาตรการสนับสนุนครั้งสำคัญเพื่อหยุดยั้งการดิ่งตัวที่เริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ได้กลับมาผันผวนหนักอีกหนหนึ่งในวันจันทร์ (27ก.ค.) จากการที่ดัชนีคอมโพสิตของตลาดเซี่ยงไฮ้ ดิ่งลงถึง 8.5% ถือเป็นการตกลงวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2007 หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รื้อฟื้นความกังวลเกี่ยวกับสถานะทางเศรษฐกิจของชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่โลก
ความยุ่งเหยิงครั้งใหม่เกิดขึ้นแม้ว่าเมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลจีนได้ใช้ความพยายามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สำหรับกระตุ้นตลาดทุนที่ดิ่งลงมาตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่าปัจจัยนี้ก่อความกังวลทางอุปสงค์ที่สร้างแรงกดดันแก่ตลาดน้ำมัน โดยเฉพาะในจีน ท่ามกลางระดับการผลิตที่สูงเป็นประวัติการณ์จากทั่วโลก
การดิ่งลงสาหัสที่สุดในวันเดียวในรอบ 8 ปีของตลาดหุ้นจีน แผ่ลามความกังวลมาถึงอเมริกา ด้วยฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงหนักเช่นกันในวันจันทร์(27ก.ค.) ท่ามกลางความกังวลว่าภาวะความอ่อนแอของเศษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกอาจส่งผลกระทบต่อเหล่าคู่หูการค้าหลักของพวกเขา
ดาวโจนส์ ลดลง 127.94 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,440.59 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 12.01 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,067.64 จุด แนสแดค ลดลง 48.85 จุด (0.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,039.78 จุด
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ส่วนแนสแดค แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ และเอสแอนด์พี 500 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
หลังจากหุ้นจีนร่วงลงกว่าร้อยละ 8 คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีน (CSRC) กล่าวว่า รัฐบาลจะเดินหน้าเพิ่มการซื้อหุ้นเพื่อสร้างเสถียรภาพแห่ตลาด หลังจากแผนกอบกู้ตลาดที่ดำเนินการก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะสะดุด
ช่วงปลายเดือนที่แล้วและต้นเดือนนี้ ทางการจีนได้ใช้ทั้งมาตรการลดดอกเบี้ย สั่งชะลอการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก ผ่อนคลายกฎการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์และสินทรัพย์ค้ำประกัน สนับสนุนการปล่อยเงินกู้แก่บริษัทหลักทรัพย์ และสั่งให้กิจการของรัฐเข้าซื้อหุ้นพร้อมให้เงินอัดฉีดจากธนาคารกลาง ขณะที่บริษัทจำนวนมากสมัครใจระงับการซื้อขายหุ้นของตนในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ เพื่อพยุงราคาหุ้นที่ตกรูดลงกว่า 30% คิดเป็นมูลค่า 32 ล้านล้านดอลลาร์ ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน
หลังจากการดำเนินมาตรการเหล่านี้ ตลาดหุ้นจีนฟื้นขึ้นประมาณ 15% ก่อนถูกเทขายอย่างหนักระลอกใหม่เมื่อวันจันทร์ โดยที่การดำดิ่งหนนี้มีลักษณะตกกันทั้งกระดาน กล่าวคือมีหุ้นของบริษัท 2,247 แห่งดิ่งลง มีเพียง 77 บริษัทที่ปิดบวก และหุ้นกว่า 1,500 ตัวในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นดิ่งลงถึงระดับต่ำสุดที่อนุญาตให้ลงไปได้ในระหว่างวัน
อย่างไรก็ตามในส่วนของราคาทองคำได้ประโยชน์จากข่าวคราวที่น่ากังวลดังกล่าว โดยปิดบวกพอสมควรเมื่อวันจันทร์(27ก.ค.) ด้วยนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เช่นเดียวกับบางส่วนที่ช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไร หลังโลหะมีค่าชนิดนี้ขยับลงต่อเนื่องในระยะหลัง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,096.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
0 comments :
Post a Comment