** ดาวโจนส์ + 168.43 จุด / 17.888.35 **
น้ำมัน + 20 เซนต์ / 41.85
ทองคำ - 1.80 ดอลลาร์ / 1,063.50
น้ำมันคงที่-ทองลง หุ้นมะกันพุ่งจากยอดขายรถแข็งแกร่ง
เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร(1ธ.ค.) นักลงทุนจับตารายงานสต๊อกปิโตรเลียมรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงยอดขายรถยนต์อันแข็งแกร่งในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ทองคำปิดลบในกรอบแคบๆ
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 41.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 44.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้ความเห็นของซาอุดีอาระเบีย ชาติผู้ผลิตรายใหญ่ของโอเปก บ่งชี้ว่าทางกลุ่มมีความตั้งใจหารือกันถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิต แต่เหล่านักลงทุนยังสงสัยต่อท่าทีดังกล่าว
"เราจะหารือกัน จากนั้นจะตัดสินใจเกี่ยวกับกำลังผลิต" นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบียบอกกับผู้สื่อข่าวขณะเดินทางไปถึงกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ก่อนหน้าการประชุม 12 ชาติสมาชิกโอเปกในวันศุกร์(4ธ.ค.)
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาไปที่รายงานคลังน้ำมันสำรองรายสัปดาห์ของสหรัฐฯที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ(2ธ.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่ามันน่าจะลดลงพอสมควร หลังจากสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 พฤศจิกายน เพิ่มขึ้นถึง 1.0 ล้านบาร์เรล เป็น 488.2 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 27.5 เปอร์เซ็นต์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(1ธ.ค.) เริ่มต้นเดือนธันวาคม ด้วยการขยับขึ้นแรง จากการฟื้นตัวของกลุ่มสุขภาพและอุปโภคบริโภค ท่ามกลางยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่งในอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 168.43 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.888.35 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 22.22 จุด (1.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,102.63 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 47.64 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,156.31 จุด
หุ้นกลุ่มประกันสุขภาพในเอสแอนด์พี 500 ทะยาน 1.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนดัชนีสินค้าฟุ่มเฟือย เพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ หลังจากปรับลดในวันจันทร์(30พ.ย.)
ยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่งในเดือนพฤศจิกายน รักษาสถิติเป็นปีที่มียอดขายเติบโตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในปี 2015 ปัจจัยนี้ดันหุ้นของฟอร์ด ปิดบวกถึง 1.6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจีเอ็ม ปิดบวก 0.2 เปอร์เซ็นต์
ด้านราคาทองคำในวันอังคาร(1ธ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย นักลงทุนจับตาไปที่ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯและรายงานการจ้างงานรายเดือนที่มีกำหนดเผยแพร่ออกมาในวันศุกร์(4ธ.ค.) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,063.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
** วัดใจ 1,350 จุด **
โมนิก้าและทีมงาน 2-12-58
*ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันที่นักเล่นต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างด้วยตนเองอีกครั้ง หลังดัชนีอ่อนตัวลงมาเรื่อยๆ จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 1,357.01จุด ลบไป 2.69 จุด ด้วยมูลค่า 3.35 หมื่นล้านบาท มันคือสถานการณ์ที่ค่อนข้างล่อแหลมในการลงทุน หากดัชนีอ่อนตัวจนหลุดแนวรับ 1,350 จุด ย่อมทำให้ความมั่นใจในการลงทุนหดหายลงไปเป็นกอง และจะทำให้ดัชนีอยู่ในทิศทางขาลงอีกครั้งเจ้าค่ะ
*โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามหลังมาติดๆ คงเป็นเรื่องของการหนีตายจ้าระหวั่น ซึ่งเป็นภาพเดิมๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรที่ผิดปกติ วันนี้ถึงต้องถามตัวนักลงทุนแบบตรงๆ อีกครั้งว่าตั้งอยู่บนความเชื่อเรื่องไหน? หากมองภาพรวมของประเทศแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า น่าจะเหนื่อยสุดๆ ก็ชิงหลบเข้าข้างทางก่อน..หากมองภาพรวมของประเทศแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า น่าจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ก็ชิงซื้อหุ้นก่อนเลยนะคะ
*วันนี้ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจเรื่องต่างๆ อย่างเป็นระบบ เพราะสิ่งที่เห็นวันนี้ คือ ความขมุกขมัวยังเกิดขึ้นให้เห็นตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงพยายามแนะนำแมงเม่าปีกอ่อนให้คิดเรื่องต่างๆ ไปทีละขั้น อย่าได้มองข้ามช็อตไปไกลเกินกว่าความเป็นจริง เพราะสิ่งที่เห็นในทุกวันนี้เต็มไปด้วยวิมานเมฆ เดี๊ยนถึงพยายามขัดจังหวะทุกครั้งที่เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลนะจะบอกให้
*เหมือนกับแรงซื้อที่เข้ามาตลอดทั้งวัน แต่ไม่สามารถประคองดัชนีปิดบวกได้ “โมนิก้า” ย่อมพุ่งเป้าเรื่องนี้ไปที่นักลงทุนสถาบันไม่ได้ตั้งใจซื้อหุ้น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติระดมสาดหุ้นออกมาอย่างหนัก จนยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปี 58 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.22 แสนล้านบาท ทั้งที่ตอนแรกฟันธงไว้ว่า 1 แสนล้านบาทก็หยุดขายแล้ว มันคือเรื่องราวที่บอกให้ทุกคนเตรียมพบกับแรงกระแทกที่จะมีออกมาเป็นระลอกเจ้าค่ะ
*ถ้านึกประเด็นตรงนี้ไม่ออก “โมนิก้า” ขอเทน้ำหนักไปที่พี่เทพ PTTEPหากดูตามหน้าเสื่อของข่าวสารที่เกิดขึ้นจะเห็นว่า หุ้นลงลึกเกินไปจริงๆ เพราะมูลค่ากิจการอยู่สูงถึง 102 บาท แต่ราคาหุ้นในกระดานวานนี้อยู่ที่ระดับ 62.25บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 4.60% ด้วยมูลค่า 1.50 พันล้านบาท พร้อมกับทำ new lowในรอบเกินกว่า 6 ปี มันเป็นสถานการณ์ที่บังคับให้นักลงทุนต้องคิดว่าจะเอาอย่างไรคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC ผู้รู้ทุกท่านพูดในมุมเดียวกันว่า บริษัทมีเงินทุนเยอะแยะ และยังมีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง แต่สุดท้ายช่วยอะไรได้บ้างในยามที่น้ำตาลยังว่าขม “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นหุ้นดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 205 บาท บวกไป 5.50 บาท หรือขึ้นไป 2.80% เพราะภาพใหญ่ของการลงทุนยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญพะยะค่ะ
*ตรงกันข้ามกับในรายของ AOTเพราะรายนี้เป็นทีเด็ดที่ไม่มีทางผิดหวัง แถมตัวเลขกำไรก็โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ประเทศไทยกำลังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการบิน แต่การท่องเที่ยวของประเทศไทยยังคงคึกคัก มันสะท้อนให้เห็นว่า ในวิกฤติยังมีโอกาสเสมอ ซึ่งทำให้หุ้นตัวนี้เป็นโอกาสของการลงทุนรอบใหม่เต็มๆ ล่าสุดหุ้นปิดที่ 324 บาท บวกไป 13 บาท หรือขึ้นไป 4.20% มันไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอน แต่มันคือความตั้งใจซื้อของนักลงทุนสถาบัน หุ้นถึงดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้โดนถล่มอย่างต่อเนื่องไงล่ะจ๊ะ
*ตรงกันข้ามกับหุ้นสายการบินที่เจอตอเข้าอย่างจัง “โมนิก้า” ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่าย ถึงทำให้ภาพของธุรกิจสายการบินของไทยมีปัญหาความน่าเชื่อถือ เดี๊ยนถึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยกันเขกหัวตัวเองเพื่อเตือนสติตัวเองว่า แก้ไขปัญหาไปถึงไหนแล้ว? เพราะข่าวล่าสุดที่ www.kaohoon.com รายงานแบบสดๆ ร้อนๆ ในช่วง 5 โมงเย็นนั้น..งานเข้าอีกแล้วนะจะบอกให้
*โดยคนที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในเที่ยวนี้เขาพุ่งเป้าไปที THAIเพราะเป็นสายการบินที่บินเข้าอเมริกาเยอะสุด ส่วนคนอื่นๆ อย่าคิดว่าจะรอด เพราะหลังจากมีคำสั่งห้ามบินเข้าอเมริกา เขาว่ากันว่า ICAOเตรียมฟันดาบสองอีกทีหนึ่ง และตรงนี้แหละที่ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรู้สึกหนักใจ เพราะยังมีคนจ้องจะฟันดาบที่สาม และดาบที่สี่อยู่อีก จึงทำให้หุ้นสายการบินที่เหลือใช่ว่าจะรอดนะคะ
*ส่วนคนที่รอดอย่างสบายตัว และกำลังไปได้สวยกับชีวิต “โมนิก้า” ขอปรบมือดังๆ ให้กับ ASEFAซึ่งเป็นผลงานการปั้นของ “เฮียแกะ” และทำให้คนในสังคมรู้ว่า การเติบโตอย่างยั่งยืนมันอยู่ที่ผลงานทำได้ตามที่เม้าท์ไว้ไหม? หากทำได้ตามคอมมิดเม้น ราคาหุ้นจะถีบตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนเช่นวานนี้ที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.05บาท บวกไป 0.40บาท หรือขึ้นไป 7% มันคือผลสะท้อนจากการทำงานหนักของ “เฮียไพบูลย์”..อยากรู้ว่า เฮียแจ๋วขนาดไหน..เดี๋ยวเดี๊ยนไปคิวสัมภาษณ์สองต่อสองก่อนเจ้าค่ะ
*ไหนๆ เม้าถึงผลงานชิ้นโบว์แดงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ของเม้าท์ถึง TACCซึ่งเป็นอีกหนึ่งน้องใหม่ที่ถูกส่งเข้าประกวดจาก บล.ฟินันเซียฯ ส่วนจะดีขนาดไหน? วันนี้ได้เห็นเต็มสองลูกตาแน่นอน..ไม่เชื่อถามเฮียดูก็ได้นะคะ
*ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันที่นักเล่นต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างด้วยตนเองอีกครั้ง หลังดัชนีอ่อนตัวลงมาเรื่อยๆ จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 1,357.01จุด ลบไป 2.69 จุด ด้วยมูลค่า 3.35 หมื่นล้านบาท มันคือสถานการณ์ที่ค่อนข้างล่อแหลมในการลงทุน หากดัชนีอ่อนตัวจนหลุดแนวรับ 1,350 จุด ย่อมทำให้ความมั่นใจในการลงทุนหดหายลงไปเป็นกอง และจะทำให้ดัชนีอยู่ในทิศทางขาลงอีกครั้งเจ้าค่ะ
*โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามหลังมาติดๆ คงเป็นเรื่องของการหนีตายจ้าระหวั่น ซึ่งเป็นภาพเดิมๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรที่ผิดปกติ วันนี้ถึงต้องถามตัวนักลงทุนแบบตรงๆ อีกครั้งว่าตั้งอยู่บนความเชื่อเรื่องไหน? หากมองภาพรวมของประเทศแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า น่าจะเหนื่อยสุดๆ ก็ชิงหลบเข้าข้างทางก่อน..หากมองภาพรวมของประเทศแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า น่าจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ก็ชิงซื้อหุ้นก่อนเลยนะคะ
*วันนี้ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจเรื่องต่างๆ อย่างเป็นระบบ เพราะสิ่งที่เห็นวันนี้ คือ ความขมุกขมัวยังเกิดขึ้นให้เห็นตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงพยายามแนะนำแมงเม่าปีกอ่อนให้คิดเรื่องต่างๆ ไปทีละขั้น อย่าได้มองข้ามช็อตไปไกลเกินกว่าความเป็นจริง เพราะสิ่งที่เห็นในทุกวันนี้เต็มไปด้วยวิมานเมฆ เดี๊ยนถึงพยายามขัดจังหวะทุกครั้งที่เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลนะจะบอกให้
*เหมือนกับแรงซื้อที่เข้ามาตลอดทั้งวัน แต่ไม่สามารถประคองดัชนีปิดบวกได้ “โมนิก้า” ย่อมพุ่งเป้าเรื่องนี้ไปที่นักลงทุนสถาบันไม่ได้ตั้งใจซื้อหุ้น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติระดมสาดหุ้นออกมาอย่างหนัก จนยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปี 58 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.22 แสนล้านบาท ทั้งที่ตอนแรกฟันธงไว้ว่า 1 แสนล้านบาทก็หยุดขายแล้ว มันคือเรื่องราวที่บอกให้ทุกคนเตรียมพบกับแรงกระแทกที่จะมีออกมาเป็นระลอกเจ้าค่ะ
*ถ้านึกประเด็นตรงนี้ไม่ออก “โมนิก้า” ขอเทน้ำหนักไปที่พี่เทพ PTTEPหากดูตามหน้าเสื่อของข่าวสารที่เกิดขึ้นจะเห็นว่า หุ้นลงลึกเกินไปจริงๆ เพราะมูลค่ากิจการอยู่สูงถึง 102 บาท แต่ราคาหุ้นในกระดานวานนี้อยู่ที่ระดับ 62.25บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 4.60% ด้วยมูลค่า 1.50 พันล้านบาท พร้อมกับทำ new lowในรอบเกินกว่า 6 ปี มันเป็นสถานการณ์ที่บังคับให้นักลงทุนต้องคิดว่าจะเอาอย่างไรคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC ผู้รู้ทุกท่านพูดในมุมเดียวกันว่า บริษัทมีเงินทุนเยอะแยะ และยังมีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง แต่สุดท้ายช่วยอะไรได้บ้างในยามที่น้ำตาลยังว่าขม “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นหุ้นดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 205 บาท บวกไป 5.50 บาท หรือขึ้นไป 2.80% เพราะภาพใหญ่ของการลงทุนยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญพะยะค่ะ
*ตรงกันข้ามกับในรายของ AOTเพราะรายนี้เป็นทีเด็ดที่ไม่มีทางผิดหวัง แถมตัวเลขกำไรก็โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ประเทศไทยกำลังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการบิน แต่การท่องเที่ยวของประเทศไทยยังคงคึกคัก มันสะท้อนให้เห็นว่า ในวิกฤติยังมีโอกาสเสมอ ซึ่งทำให้หุ้นตัวนี้เป็นโอกาสของการลงทุนรอบใหม่เต็มๆ ล่าสุดหุ้นปิดที่ 324 บาท บวกไป 13 บาท หรือขึ้นไป 4.20% มันไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอน แต่มันคือความตั้งใจซื้อของนักลงทุนสถาบัน หุ้นถึงดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้โดนถล่มอย่างต่อเนื่องไงล่ะจ๊ะ
*ตรงกันข้ามกับหุ้นสายการบินที่เจอตอเข้าอย่างจัง “โมนิก้า” ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่าย ถึงทำให้ภาพของธุรกิจสายการบินของไทยมีปัญหาความน่าเชื่อถือ เดี๊ยนถึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยกันเขกหัวตัวเองเพื่อเตือนสติตัวเองว่า แก้ไขปัญหาไปถึงไหนแล้ว? เพราะข่าวล่าสุดที่ www.kaohoon.com รายงานแบบสดๆ ร้อนๆ ในช่วง 5 โมงเย็นนั้น..งานเข้าอีกแล้วนะจะบอกให้
*โดยคนที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในเที่ยวนี้เขาพุ่งเป้าไปที THAIเพราะเป็นสายการบินที่บินเข้าอเมริกาเยอะสุด ส่วนคนอื่นๆ อย่าคิดว่าจะรอด เพราะหลังจากมีคำสั่งห้ามบินเข้าอเมริกา เขาว่ากันว่า ICAOเตรียมฟันดาบสองอีกทีหนึ่ง และตรงนี้แหละที่ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรู้สึกหนักใจ เพราะยังมีคนจ้องจะฟันดาบที่สาม และดาบที่สี่อยู่อีก จึงทำให้หุ้นสายการบินที่เหลือใช่ว่าจะรอดนะคะ
*ส่วนคนที่รอดอย่างสบายตัว และกำลังไปได้สวยกับชีวิต “โมนิก้า” ขอปรบมือดังๆ ให้กับ ASEFAซึ่งเป็นผลงานการปั้นของ “เฮียแกะ” และทำให้คนในสังคมรู้ว่า การเติบโตอย่างยั่งยืนมันอยู่ที่ผลงานทำได้ตามที่เม้าท์ไว้ไหม? หากทำได้ตามคอมมิดเม้น ราคาหุ้นจะถีบตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนเช่นวานนี้ที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.05บาท บวกไป 0.40บาท หรือขึ้นไป 7% มันคือผลสะท้อนจากการทำงานหนักของ “เฮียไพบูลย์”..อยากรู้ว่า เฮียแจ๋วขนาดไหน..เดี๋ยวเดี๊ยนไปคิวสัมภาษณ์สองต่อสองก่อนเจ้าค่ะ
*ไหนๆ เม้าถึงผลงานชิ้นโบว์แดงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ของเม้าท์ถึง TACCซึ่งเป็นอีกหนึ่งน้องใหม่ที่ถูกส่งเข้าประกวดจาก บล.ฟินันเซียฯ ส่วนจะดีขนาดไหน? วันนี้ได้เห็นเต็มสองลูกตาแน่นอน..ไม่เชื่อถามเฮียดูก็ได้นะคะ
** สังคมข่าวหุ้น **
2-12-58
*ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับลงสวนตลาดหุ้นเอเชีย นัยสำคัญว่า ยังซึมๆ กับผลของ MSCI ที่อันเดอร์เวทหุ้นไทย และอีกหลายประเทศในเอเชียอยู่ ล่าสุด ผู้บริหารของ MSCI โปรยยาหอมบอกว่า บจ.ไทยยังแข็งแกร่ง เหมาะลงทุนระยะยาว และหากปีหน้า รัฐบาลเดินโครงการขนาดใหญ่ก็มีลุ้นปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนได้
*หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้รับคำแนะนำ“ซื้อ”จากนักวิเคราะห์แทบจะทุกโบรกฯ จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มข้น หากนับจากต้นปีมาถึงปัจจุบัน ทั้ง AOT – MINT- CENTEL และ AAV เพราะมองว่าจะได้รับประโยชน์ พร้อมกับมีมุมมองว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยยังคงดี หรือลากยาวไปถึงปี 2559 แน่นอน
*หุ่นในกลุ่มธนาคาร แม้นักวิเคราะห์จะปรับลดน้ำหนักการลงทุน เพราะให้จับตาตัวเลขหนี้เสีย หรือ เอ็นพีแอลในไตรมาส 4/58 แต่สำหรับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ กลับเริ่มเข้ามาแอบมอง คอยเก็บเข้าพอร์ตซะแล้ว นำโดย KBANKขวัญใจฝรั่งทั้งหัวแดง หัวดำ ส่วน BBL ก็อยู่ในข่ายที่จะถูกเก็บเข้าพอร์ตเช่นกัน
*ด้านหุ้นลีสซิ่ง ตอนนี้ราคาเริ่มโรยๆ บ้าง แต่เป็นเพียงการย่อตัว เช่น MTLSเพราะที่ผ่านมาราคาพุ่งแรงเกินไป ทำให้โบรกฯ แนะว่า เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ ราคาสเป้าหมายส่วนใหญ่ให้เกิน 25 บาท วานนี้ 20.75 บาท หุ้นมีอัพไซด์เยอะ ส่วนหุ้น SAWAD ล่าสุดขยายการลงทุนไปเวียดนาม ด้วยการตั้งบริษัทลูกค้าที่นั่น โดยรับซื้อขายรถยนต์ทุกประเภทและรถเพื่อการเกษตร ส่วนปัญหากับ “เงินติดล้อ” ค่ายของ BAY ทาง SAWADก็แจงว่า ไม่เคยใช้คำว่า “เงินติดล้อ” ไปทำมาหากิน ส่วนสโลแกนของเขาคือ “มีบ้าน มีรถ เงินสดทันใจ” ขณะที่วันนี้ “เงินติดล้อ” ก็จะมีแถลงข่าวเรื่องประเด็นนี้
*หุ้นไทยคม THCOM ที่ผ่านมาราคาโรยลงมาตลอด สวนทางกับผลประกอบการ และงานที่เข้ามาตลอด ทำให้ราคามีอัพไซด์เกือบ 100% เพราะราคาปิดวานนี้ 25 บาท ขณะที่ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 54 บาท
*กลุ่มพลังงานยังร่วงเกือบยกแผงทั้ง PTT – PTTGC และ PTTEP โดยเฉพาะ PTT นั้น สัญญาณทางเทคนิคจะลงต่อ เพราะแนวรับแถว 263 บาท มันหลุดมาแล้ว และต่อไปจะมาตั้งรับที่ 250 บาท ว่านนี้ปิด 253 บาท ฉิวเฉียดจริงๆ แต่นักวิเคราะห์ก็มองอีกว่า หากหลุดตรงนี้อีก ก็คงไหลยาว ยิ่งราคานย้ำมันในตลาดโลกไม่ค่อนจะเป็นใจซักเท่าไหร่ด้วย
*วันนี้ (2 ธ.ค.) บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์(TACC) เริ่มเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ด้านผู้บริหารบริษัท และเอฟเอ คือ บล.ฟินันเซียไซรัส มั่นใจหุ้น TACC จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และยืนเหนือราคาจองที่ 2.88 บาท/หุ้นได้ ขณะที่คาดกันว่าราคาอาจขึ้นไปได้มากว่า 3.50 บาท หรืออาจเลย 4 บาทขึ้นไป
*หุ้นร้อนประจำวันที่ 1 ธ.ค.2558 ที่มีราคาและมูลค่าซื้อขายปรับขึ้นแรงและอยู่ระหว่าง (Trading Alert List) และขยายช่วงดำเนินการ ได้แก่ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA, ใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 หรือ UREKA-W1 ทำให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance (ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งจำนวน) มีผลตั้งแต่ 02 ธ.ค. - 22 ธ.ค. 2558
2-12-58
*ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับลงสวนตลาดหุ้นเอเชีย นัยสำคัญว่า ยังซึมๆ กับผลของ MSCI ที่อันเดอร์เวทหุ้นไทย และอีกหลายประเทศในเอเชียอยู่ ล่าสุด ผู้บริหารของ MSCI โปรยยาหอมบอกว่า บจ.ไทยยังแข็งแกร่ง เหมาะลงทุนระยะยาว และหากปีหน้า รัฐบาลเดินโครงการขนาดใหญ่ก็มีลุ้นปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนได้
*หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้รับคำแนะนำ“ซื้อ”จากนักวิเคราะห์แทบจะทุกโบรกฯ จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มข้น หากนับจากต้นปีมาถึงปัจจุบัน ทั้ง AOT – MINT- CENTEL และ AAV เพราะมองว่าจะได้รับประโยชน์ พร้อมกับมีมุมมองว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยยังคงดี หรือลากยาวไปถึงปี 2559 แน่นอน
*หุ่นในกลุ่มธนาคาร แม้นักวิเคราะห์จะปรับลดน้ำหนักการลงทุน เพราะให้จับตาตัวเลขหนี้เสีย หรือ เอ็นพีแอลในไตรมาส 4/58 แต่สำหรับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ กลับเริ่มเข้ามาแอบมอง คอยเก็บเข้าพอร์ตซะแล้ว นำโดย KBANKขวัญใจฝรั่งทั้งหัวแดง หัวดำ ส่วน BBL ก็อยู่ในข่ายที่จะถูกเก็บเข้าพอร์ตเช่นกัน
*ด้านหุ้นลีสซิ่ง ตอนนี้ราคาเริ่มโรยๆ บ้าง แต่เป็นเพียงการย่อตัว เช่น MTLSเพราะที่ผ่านมาราคาพุ่งแรงเกินไป ทำให้โบรกฯ แนะว่า เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ ราคาสเป้าหมายส่วนใหญ่ให้เกิน 25 บาท วานนี้ 20.75 บาท หุ้นมีอัพไซด์เยอะ ส่วนหุ้น SAWAD ล่าสุดขยายการลงทุนไปเวียดนาม ด้วยการตั้งบริษัทลูกค้าที่นั่น โดยรับซื้อขายรถยนต์ทุกประเภทและรถเพื่อการเกษตร ส่วนปัญหากับ “เงินติดล้อ” ค่ายของ BAY ทาง SAWADก็แจงว่า ไม่เคยใช้คำว่า “เงินติดล้อ” ไปทำมาหากิน ส่วนสโลแกนของเขาคือ “มีบ้าน มีรถ เงินสดทันใจ” ขณะที่วันนี้ “เงินติดล้อ” ก็จะมีแถลงข่าวเรื่องประเด็นนี้
*หุ้นไทยคม THCOM ที่ผ่านมาราคาโรยลงมาตลอด สวนทางกับผลประกอบการ และงานที่เข้ามาตลอด ทำให้ราคามีอัพไซด์เกือบ 100% เพราะราคาปิดวานนี้ 25 บาท ขณะที่ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 54 บาท
*กลุ่มพลังงานยังร่วงเกือบยกแผงทั้ง PTT – PTTGC และ PTTEP โดยเฉพาะ PTT นั้น สัญญาณทางเทคนิคจะลงต่อ เพราะแนวรับแถว 263 บาท มันหลุดมาแล้ว และต่อไปจะมาตั้งรับที่ 250 บาท ว่านนี้ปิด 253 บาท ฉิวเฉียดจริงๆ แต่นักวิเคราะห์ก็มองอีกว่า หากหลุดตรงนี้อีก ก็คงไหลยาว ยิ่งราคานย้ำมันในตลาดโลกไม่ค่อนจะเป็นใจซักเท่าไหร่ด้วย
*วันนี้ (2 ธ.ค.) บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์(TACC) เริ่มเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ด้านผู้บริหารบริษัท และเอฟเอ คือ บล.ฟินันเซียไซรัส มั่นใจหุ้น TACC จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และยืนเหนือราคาจองที่ 2.88 บาท/หุ้นได้ ขณะที่คาดกันว่าราคาอาจขึ้นไปได้มากว่า 3.50 บาท หรืออาจเลย 4 บาทขึ้นไป
*หุ้นร้อนประจำวันที่ 1 ธ.ค.2558 ที่มีราคาและมูลค่าซื้อขายปรับขึ้นแรงและอยู่ระหว่าง (Trading Alert List) และขยายช่วงดำเนินการ ได้แก่ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA, ใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 หรือ UREKA-W1 ทำให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance (ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งจำนวน) มีผลตั้งแต่ 02 ธ.ค. - 22 ธ.ค. 2558
** สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 02 ธ.ค. 2558 **
Wednesday, December 02, 2015 06:24
MSCIชมตลาดหุ้นไทย ปี59เพิ่มน้ำหนักลงทุน 'อาคม' โม้ตามขุนคลังดัน 6 เมกะโปรเจ็กต์
MSCI มองหุ้นไทยแข็งแกร่ง ระดับแนวหน้าอาเซียน ปี 59 มีโอกาสปรับเพิ่มมุมมองใหม่ หากรัฐบาลลุยขึ้นโครงการขนาดใหญ่ บล.กสิกรไทย แนะดักซื้อ BBL และ TCAP ส่วนค้าปลีก ROBINS กลุ่มโรงกลั่นยกให้ TOP ด้าน ครม.รับทราบแผน Action Plan เร่งด่วนของกระทรวงคมนาคม ดีเดย์ไตรมาสแรกปีงบ 59 ต้องประกวดราคาให้ได้ 6 โครงการ วงเงิน 1.88 แสนล้านบาท
SCIจ่อรับงานเสา4G ส่งซิกผลงานQ4สวย
"SCI" ส่งสัญญาณไตรมาส 4/58 สวย คาดรายได้ปีนี้โต 5-10% เล็งขายเสาโทรคมนาคมให้ค่ายมือถือรองรับบริการ 4 จี ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลมรอพันธมิตรปรับโครงสร้างบริษัท ขณะที่งานปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าเฟส 2 ที่ลาวเริ่มปีหน้า
TACCเทรดวันนี้ ลุ้นราคา4บาท กำไรปีนี้โต50%
ไอพีโอน้องใหม่ "TACC" เทรดวันแรกลุ้นวิ่ง 4 บาท ยืนเหนือราคาไอพีโอ 2.88 บาท รับพื้นฐานแกร่ง ประเมินกำไรสุทธิปีนี้โต 50% คาดอนาคตเติบโตสดใส หลังได้ CPALL เป็นพันธมิตรเล็งขยายธุรกิจออกไปทั่วประเทศ
MTLSลั่นกำไรพุ่ง50% ชูเอ็นพีแอลต่ำกว่า1%
บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง หรือ MTLS ประกาศแผนปี 59 เป้าสินเชื่อและกำไรโต 50% ขยายสาขาแตะ 1,350 สาขา เอ็นพีแอลไม่เกิน 1% นาโนไฟแนนซ์โต 100% โบรกฯคาดตลาดเลือก MTLS เข้า SET50 กลางธ.ค.นี้ ด้าน SAWAD รุกลงทุนเวียดนาม
SAMART-SAMTELรูด ข่าวลือม.112กดราคา
SAMART-SAMTEL เจอข่าวลือผู้บริหารถูกไปให้ข้อมูลกรณีเกี่ยวข้องคดีหมอหยอง ทำราคาหุ้นรูดหนัก 5-7% แม้ก่อนหน้านี้ "ศรีวราห์"ระบุชัดดำเนินงานตามคำสั่งจากหน่วยงานราชการ ขณะที่กลุ่มสามารถฯ ย้ำชัดทำตามหนังสือร้องขอให้ย้ายอุปกรณ์สื่อสารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
CNTคาดปีนี้พลิกกำไร กวาดรายได้7พันล้าน แบ็กล็อกรอบุ๊คเต็มมือ
"CNT" มั่นใจผลประกอบการปีนี้พลิกกลับมามีกำไร ส่วนรายได้คาดไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้าน หลังตุนแบ็กล็อก 5,000 ล้าน
SEAFCO คว้างานใหม่ 200 ล้าน กางแผนปีหน้าดันรายได้-กำไรโต 10-15%
"ซีฟโก้" คว้างานใหม่ 200 ล้านบาท พร้อมลุ้นเซ็นงานเสาเข็มเจาะที่พม่ามูลค่ากว่า 200 ล้านบาทภายในปีนี้ ส่วนปีหน้า ตั้งเป้ารายได้-กำไรสุทธิโต 10-15% หลังภาครัฐเร่งลงทุนเมกะโปรเจ็กต์
NCHกำไรปีนี้นิวไฮรอบ10ปี ปีหน้าเล็งเปิดใหม่3โครงการ
"NCH" ส่งซิกกำไรสุทธิปีนี้นิวไฮในรอบ 10 ปี หลัง 9 เดือนแรกกำไรทะลัก 96.65 ล้านบาท มั่นใจรายได้ตามเป้า 2,200 ล้านบาท และยอดขายเข้าเป้า 2,670 ล้านบาท ส่วนปีหน้าเล็งเปิดอย่างน้อย 3 โครงการ
BJCลั่นปีนี้บุ๊คพิเศษดันกำไรนิวไฮ ลุยซื้อกิจการต่างประเทศเป้าสัดส่วนรายได้ 50%
BJC แย้มปีนี้ทำกำไรนิวไฮ หลังฟาดกำไรพิเศษ 2 ไตรมาสติด แต่ยอมรับรายได้ปีนี้โตไม่เกิน 5% ต่ำกว่าเป้าเดิมที่โต 10% พร้อมวางแผนซื้อกิจการในต่างประเทศ หนุนสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศใน 3-5 ปี เพิ่มเป็น 50%
PCAส่งซิกผลงานQ4โต ทั้งปีรายได้ทะลุ1พันล้าน โชว์ออเดอร์งานผลิตรถ
PCA แย้มผลประกอบการไตรมาส 4/58 โตต่อเนื่อง ลั่นรายได้ปีนี้โต 12-15% คาดทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมโชว์ออเดอร์งานรับจ้างผลิตรถสื่อสารผ่านดาวเทียมและรถถ่ายทอดสดมูลค่ากว่า 300-400 ล้านบาท
CPNมั่นใจปีหน้ารายได้โต15% เล็งเปิดขายคอนโดฯ1.6พันล้าน
CPN ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โต 14-15% จากการทยอยเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ พร้อมเตรียมเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม 3 แห่ง มูลค่ารวม 1,600 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี 59
TPCHเล็งลงทุนอาเซียนปีหน้า ย้ำเป้าหมายกำลังการผลิตรวม200 เมกะวัตต์
TPCH ปิดฉากโรดโชว์ "ฮ่องกง-มาเลเซีย-สิงคโปร์" กระแสตอบรับดี "เชิดศักดิ์" เปิดแผนปี 59 เตรียมขยายการลงทุนในอาเซียน เปิดฉากที่กัมพูชาและลาว คาดได้ข้อสรุปต้นปีหน้า ย้ำเป้าหมายภายใน 5 ปี มีกำลังการผลิตรวม 200 MW
คมนาคมจ่อเปิดทางเอกชนไทย ร่วมทุนบริษัทเดินรถไทย-ญี่ปุ่น
"คมนาคม" รายงานครม.รับทราบความคืบหน้ารถไฟไทย-ญี่ปุ่น เส้นแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ "อาคม" จ่อคุยฝ่ายญี่ปุ่นให้ได้ข้อยุติบริษัทร่วมทุนด้านเดินรถภายในม.ค.นี้ ส่อแววเปิดโอกาสเอกชนไทยเข้าร่วมได้ 2%
GOLD ยันกำไรปีนี้นิวไฮต่อเนื่อง วางเป้าปีหน้ารายได้พุ่ง 10,000 ล้านบาท
"GOLD" มั่นใจกำไรสุทธิปีนี้ทำนิวไฮต่อเนื่อง หลัง 9 เดือนแรกโชว์กำไรทะลุ 361 ล้านบาท ส่วนรายได้ทั้งปีคาดทำได้ตามนัด 8,500 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อกรอบุ๊ค 2,800 ล้านบาท ส่วนปีหน้าวางเป้าดันรายได้พุ่งระดับ 10,000ล้านบาท
หุ้นเอเชียทะยานขึ้นเป็นส่วนใหญ่ นิกเกอิฝ่าระดับ 20,000 จุดครั้งแรกรอบสามเดือน
ตลาดหุ้นเอเชียปิดในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีนิกเกอิฝ่าระดับ 20,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน ขณะเดียวกันนักลงทุนไม่สะทกสะท้านต่อการปรับตัวลงของหุ้นในวอลล์สตรีท
"หยวน" อ่อน หลังไอเอ็มเอฟรวมเข้าเอสดีอาร์ตามคาด
ไอเอ็มเอฟยอมรับเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าเงินเอสดีอาร์ตามคาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นับเป็นชัยชนะในการรณรงค์ของรัฐบาลปักกิ่งเพื่อให้ได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก ค่าเงินหยวนอ่อนตัวลงเนื่องจากมองว่าธนาคารกลางจีนจะแทรกแซงได้น้อยลง
ครม.ปูทางอีเพย์เมนต์ ยกเลิกใช้เงินสดจ่ายผ่านบัตร
ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ระบบชำระเงิน รองรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ในปีหน้า ตามนโยบายยกเลิกการชำระเงินสด มาจ่ายผ่านบัตร หรือทางอิเล็กทรอนิกส์แทน ตั้งแต่วงเงิน 20 บาทขึ้นไป
KTAMชงบอนด์ 'ทิสโก้' ปลื้มอีก ทริกเกอร์ชนเป้า
บล.กรุงไทย (KTAM) ส่งกองทุนบอนด์เพิ่ม อายุ 3 เดือน คาดยีลด์ 1.65% ต่อปี ส่วน บลจ.ทิสโก้ ปลื้มอีก ทริกเกอร์เมืองไส้กรอกเข้าเป้า 8%
'เออีซี' ลุ้นเงินคิวอีพยุงหุ้น แนะกลุ่มท่องเที่ยว AOT-AAV และ MINT
บล.เออีซี มองดัชนีเดือน ธ.ค. เสี่ยงทรุดตัวมาที่ 1,345 จุด ลุ้นเงิน QE ยุโรป-LTF พยุง และจากงาน Thailand Focus หนุนดัชนีฯ แนะลงทุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว-โรงพยาบาล-เช่าซื้อ ชู AOT-AAV-ERW-MINT-CENTEL-BA-BDMS-BCH-VIBHA-SAWAD-MTLS-GL-ASK
KBANKสินเชื่อตปท.โต40% เล็งขยายสาขาในจีน-เออีซี
แบงก์กสิกรไทย (KBANK) คงเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อต่างประเทศปี 59 ที่ 40% ล่าสุด มีแผนเพิ่มสาขาในจีนแห่งที่ 3 และในกัมพูชาช่วงปีหน้า
กองทุนเก็บกลุ่มแบงก์เพิ่ม อเบอร์ดีนปลื้ม BKI-THRE ทำกำไรโต
อเบอร์ดีนปลื้ม BKI-THRE ทำกำไรโตต่อเนื่อง เผยหากมีเงินลงทุนใหม่เข้ามาหุ้นดังกล่าวเป็นทางเลือกแรกในการเพิ่มน้ำหนัก มั่นใจหุ้นกลุ่มสมอลล์แคปพระเอกหลักตลาดหุ้นไทยปีหน้า ส่วนนักลงทุนสถาบันต่างประเทศจับตาหุ้นกลุ่มธนาคาร
0 comments :
Post a Comment