สรุปข่าวการลงทุนหุ้น วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558



** น้ำมันขึ้นน้อย-ทองลง หุ้นสหรัฐฯทรงตัวท่ามกลางข้อมูลศก.ผสมผสาน **

        เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ(25พ.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย หลังพบแนวโน้มกำลังผลิตลดลงในสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผสมผสาน ขณะที่ทองคำขยับลง
      
       น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 43.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 46.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
      
       ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯพบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 พฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล ทว่าอีกด้านหนึ่งรายงานจากเบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทสำรวจและขุดเจาะเชื้อเพลิงรายใหญ่ เผยให้เห็นว่ารอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 พฤศจิกายน มีแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ยังปฏิบัติการอยู่ลดลงอีก 9 แท่นเหลือ 555 แท่น
      
       ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(25พ.ย.) ทรงตัวในวันที่การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง โดยกลุ่มประะกันสุขภาพและอุปโภคบริโภคดีดขึ้นมากสุด ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผสมผสาน
      
       ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.20 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.813.39 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.27 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,088.87 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 13.34 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,116.14 จุด
      
       จากข้อมูลทางเศรษฐกิจเผยให้เห็นว่าจำนวนผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานลดลงกว่าที่คาดหมายไว้สู่ระดับ 260,000 อัตราเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนตุลาคม ไม่นับรวมเครื่องบิน เพิ่มขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าที่คาดหมายว่ากว่า 3 เท่า
      
       อย่างไรก็ตามในรายงานอื่นๆกลับพบว่าเหล่าผู้บริโภคไม่ได้อยู่ในอารมณ์ของการจับจ่าย ด้วยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นแค่ 0.1 เปอร์เซ็นต์ จากที่คาดหมายไว้ 0.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนของมหาวิทยาลัยมิชิแกนก็ลดลงกว่าที่คาดหมายไว้
      
       ในวันพุธ(25พ.ย.) นักลงทุนหันมาเพ่งเล็งฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลวันหยุดของสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มขึ้นหลังจากวันหยุดขอบคุณพระเจ้าในวันพฤหัสบดี(26พ.ย.)
      
       นอกจากนี้แล้วนักลงทุนยังจับตาประเด็นความมั่นคงของโลก โดยเฉพาะวิกฤตบาดหมางระหว่างรัสเซียกับตุรกีท่ามกลางสงครามซีเรีย รวมถึงผลกระทบของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เป็นครั้งแรกจตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งคาดหมายว่าน่าจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม
      
       ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(25พ.ย.) ปิดลบในกรอบแคบๆ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่ได้กัดเซาะความคาดหมายไว้ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,070.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์



** กองทุนตัวดี  โมนิก้าและทีมงาน  26-11-58 **


*หากพูดถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนมากสุดในเวลานี้ “โมนิก้า” ต้องพุ่งเป้าไปที่สตอรี่ของหุ้นแต่ละตัวเป็นไปในทิศทางไหน เพราะเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ราคาหุ้นจะถีบตัวขึ้นไปได้ไกลแค่ไหน? วันนี้ถึงต้องมาทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรช่วงตลาดหุ้นผันผวน เดี๊ยนถึงไม่พยามหาสาเหตุที่ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงเรื่อยๆ ไงล่ะค่ะ

*เนื่องจากมันเห็นกันอย่างทนโท่ว่า สัปดาห์นี้กองทุนกระหน่ำเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่องอยู่เจ้าเดียว และเป็นหนึ่งในตัวแปรที่ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,381.46จุด ลบไป 3.46 จุด ด้วยมูลค่า 3.91 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่แจ้งให้ทราบ ไม่ได้มีเจตนาให้ร้าย แต่อยากให้เตรียมพร้อม เพราะสัปดาห์ก่อนดัชนีก็เด้งขึ้นจากแถว 1,370 จุด และคนที่ช่วยดันก็เป็นกองทุนนี้แหละ

*เหมือนกับการขยับขึ้นของหุ้น BBL SCB KBANK ล้วนมาจากแรงซื้อของกองทุนเป็นกำลังสำคัญ โดย 2 ตัวแรกมีทิศทางที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด บวกกับหุ้นขยับตัวขึ้น 2 วัน ลง 1 วัน ส่วนตัวสุดท้ายทำได้ดีสุดแค่เริ่มผงกหัว ขณะที่ภาพใหญ่ของหุ้นทั้ง 3 ตัวยังอยู่ในทิศทาง side way down “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาข้อมูลในส่วนนี้ก่อนตะลุยของร้อนนะจะบอกให้

*ส่วนในรายของ EPG กลายเป็นหุ้นที่อยู่ในทิศทางขาขึ้นอย่างบูรณาการ แม้ราคาหุ้นจะอ่อนตัวลงไปบ้าง แต่ก็เด้งกลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 12.10บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 722 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่แฟนคลับควรจะตามดูต่อไป เพราะเวลานี้ไม่มีใครที่ผลงานเข้าตากรรมการมากไปกว่ารายนี้อีกแล้วนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ASEFA ระหว่างทางอาจโดนเทขายทำกำไรไปบ้าง สุดท้ายก็ไต่ระดับกลับขึ้นมาได้ประมาณ 3-4 แล้วมั่ง “โมนิก้า” ถึงนั่งมองการเคาะขวาที่เกิดขึ้นวานนี้ ผลสรุปออกมาอย่างเป็นทางการว่า มีแรงซื้อเยอะจริงๆ หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.75บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.55% ด้วยมูลค่า 530 ล้านบาท เป้าเบื้องต้นที่บริเวณ 6 บาทถึงไม่ใช่เรื่องยากไงล่ะค่ะ

*สำหรับในรายที่เหมาะต่อการเข้าทำสั้นๆ ต่อจากนั้นหาจังหวะชิ่งออกทันที “โมนิก้า” กลับมองไปที่ TSR เป็นลำดับแรก เหตุผลของการเม้าท์ถึงมาจากช่วงไตรมาส 1 เคยวิ่งมาแตะที่ระดับ 9.50 บาท ต่อจากนั้นรูดลงอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายลงไปกองที่ 6 บาท ล่าสุดเห็นทรงหุ้นมาแนวเดียวกับเมื่อก่อน จึงรู้สึกหวั่นใจไม่ใช่น้อยที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเวียนมาบรรจบอีกครั้ง บวกกับวานนี้หุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 9.05บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 9.70% มันเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องคิดต่ออีกทอดหนึ่งนะจ๊ะ

*เม้าท์ถึงประเด็นต่างๆ มาเยอะแยะพอสมควร “โมนิก้า” ขอเม้าเรื่องสนุกๆ ในแบบฉบับ “ขำกลิ้ง ลิงกับหมา” เพื่อให้เห็นความ “อีเรื่อยเฉื่อยแฉะ” ขอสำนักงาน กลต. ที่มีต่อหุ้น NMG แบบเปิดอกคุยกันเลยดีกว่า (มักมีข้ออ้างประจำ) หลังเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. 58 ขณะที่ตอนนี้จะหมดเดือน พ.ย. 58 ปาเข้าไปตั้ง 7 เดือน มันตรวจสอบอะไรกันนักหนา หรือประวิงเวลาเพื่อประโยชน์อะไรบ้างอย่างอะป่าวตัวเอง..อิอิอิ

*งานนี้อยากสื่อให้รู้ว่า การทำตัวครึ่งๆ กลางๆ มันทำให้คนวงนอกรู้สึกถึงเหตุการณ์ตราชั่งเอียงขึ้นมาในทันที เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เข้าประชุมไม่ได้ มันควรจะมีคำตอบออกมาสักที ไม่ควรต้องรอเป็นชาติเช่นนี้ “โมนิก้า” ในฐานะที่เห็นอะไรมามากมายในแวดวงตลาดหุ้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจถึงกลไกของตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของ..ไม่เชื่อลองถาม “เฮียรพี”..ถ้าไม่ใช่อย่างที่ว่า เดี๊ยนจะเผาตำราที่เอามาจากวอลล์สตรีทให้ดูเลยพับผ่าซิ!

*กรณีข้างต้นผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ POST อย่างสิ้นเชิง เพราะสื่อยักษ์ใหญ่เจ้านี้พร้อมเผชิญความจริงที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” จึงขอปรบมือให้กับความเป็นมืออาชีพของฝ่ายบริหาร และสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้ก็สะท้อนกลับไปยังการทำหน้าที่ของ ก.ล.ต. ว่า หากไม่ยอมรับกลไกของตลาดทุน ก็ไม่ควรเข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนี้ เพราะวันนี้ทุกคนต้องการความชัดเจน อะไรทำถูก หรือ อะไรทำผิด..แทงกั๊กแบบนี้..ไปกันไม่เป็น และเสียหายทั้งบาง..พวกยูรู้บ้างหรือเปล่า?

*ป.ล.หลายคนวิตกกังวลเกี่ยวกับการ “โจมตีกันไป โจมตีกันมา” อาจเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดสงครามนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่ทุกคนวิเคราะห์ได้ แต่อย่ากลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอันขาด และควรรู้จักวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ดังกล่าวให้ได้ต่างหาก!


** สังคมข่าวหุ้น  26-11-58 **
 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,381.46 จุด ปรับลดลง3.46 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉียด 3.2 หมื่นล้านบาท

* เห็นภาวะตลาดหุ้นไทยแล้วห่อเหี่ยวกันเหลือเกิน มีแต่สาละวันเตี้ยลงเอาเรื่อยๆ นี่ก็ถอยฉากลงมาแถวแนวรับ 1,380 จุดกันอีกแล้ว

* บอกตรงๆ ข่าวดีหนุนภาวะตลาดหุ้นไทยช่วงนี้แทบไม่มี จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นกลุ่มหุ้นใหญ่ทั้งหลายบวกสลับลบแบบอ่อนแอ เมื่อตระกูลบลูชิพราคาหุ้นยังไร้ช่องทางปรับเพิ่ม โอกาสดันให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวยังคงยากเกินไป

* อ้าว แต่ขอให้นักลงทุนอย่าเพิ่งตกใจแตกตื่นเกินไป ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ โดยเฉพาะหุ้นหลายบริษัทที่ราคาลงต่ำเกินพื้นฐาน ทั้งที่มีปัจจัยบวกสนับสนุนชัดเจนรออยู่

* เริ่มด้วยหุ้นแรก SUPER สองวันทำการล่าสุดปิดลบรวมไปถึง 8% อันนี้ เรียกได้เลยเต็มปากเต็มคำว่าลงเว่อร์เกินไปละ

* ล่าสุดถอยมาปิดที่ 1.36 บาท เหมาะแก่การเข้าสะสม-เทรดดิ้งเป็นอย่างยิ่ง เพราะในแง่ความคืบหน้าขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) สามารถเดินหน้าไปตามสเต็ปเป้าหมาย

* ที่สำคัญหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า เดือน ธ.ค.นี้ คือ โค้งสุดท้ายที่จะลุ้นชิงเค้กโซลาร์ราชการฯ ซึ่งตามกำหนดการแล้วจับฉลากประมาณกลางเดือน ธ.ค.และประกาศรายชื่อเป็นทางการภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ จึงเชื่อได้เลยว่า ยิ่งใกล้รู้ผล หุ้นวิ่งกระจายแน่นอน ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด

* อีกบริษัทที่ชอบพื้นฐานเหมือนกัน คือ GUNKUL ที่ขยายอาณาจักรวางรากฐานรับงานไว้เต็มที่ ล่าสุดข่าวดีเรื่อง “รางเงิน โซลูชั่น” บริษัทร่วมทุนกับ SUPER มีกำหนดเตรียม COD ไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 87 MW ทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค.

* ที่สำคัญยังเป็นอีกหนึ่งตัวเก็งที่ลุ้นชิงเค้ก “โซลาร์ราชการฯ” เช่นกัน เท่านั้นยังไม่พอ ในฐานะที่บริษัทสามารถรับงานก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังงานทดแทน ยังมีสิทธิได้คว้างาน EPC ในส่วนนี้เข้าไปอีก

* ดังนั้น ไม่ว่าใครจะได้โครงการไป GUNKUL ยังคงได้รับประโยชน์เต็มที่อยู่ดี ราคาหุ้นล่าสุด 23.60 บาท ยังเข้าซื้อได้สบาย ไม่แพงเกินไปหรอกถ้าเทียบกับพื้นฐานที่มีในมือ

* หุ้น TRUE รอบ 4 วันทำการราคาลดลงไปแล้วเกือบ 9% แรงขายที่สาดออกมาช่วงนี้ เพราะไปกังวลกับกระแสข่าวลบว่า เงินในกระเป๋าที่เตรียมจ่ายค่าใบอนุญาต 4G มีไม่พอ จนส่อแววต้องเพิ่มทุน

* แต่ล่าสุด TRUE สยบข่าวลือเรียบร้อย เพราะออกมาเปิดเผยกันแล้วว่า บริษัทมีกระแสเงินสดจ่ายค่าใบอนุญาต 4G คลื่น 1800 เต็มที่แน่นอน ดังนั้น เรื่องเพิ่มทุนจึงถือว่าจบเกมกันไปจ้า

* และส่งผลให้ราคาหุ้นวันนี้น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งมองแนวต้านแรก 9 บาทแล้วกัน ถ้าวิ่งทะลุแนวต้านและยืนเหนืออยู่ได้ แนวต้านต่อไปโน่นเลย 9.50 บาท

* อีกหุ้นที่น่าสนใจช่วงนี้ขอเลือกน้อง MINT-ERW เอาที่น้องมิ้นท์กันก่อนนะ เรียกได้ว่าหุ้นที่มีข่าวดีซัพพอร์ตเต็มประตู ไตรมาสสุดท้าย “ไฮซีซั่นธุรกิจ” เต็มสูบ กำไรโตเบิกบานแน่นอน เหมาะแก่การเข้าซื้อเป็นอย่างดี

* ส่วนน้องเอร่าถือเป็นหุ้นโรงแรมที่ราคาขึ้นช้ากว่าใครเพื่อน เห็นเงียบๆ แต่พื้นฐานดีเกินคาดนะ อย่าลืมงบปี 58 ล็อกเป้าพลิกกำไร 100% แน่นอน

* ปิดท้ายด้วยหุ้น WHA ล่าสุดปิดที่ 2.98 บาท หลุดต่ำ 3 บาทต้องเก็บสถานเดียว หลังจากผู้ถือหุ้นใหญ่ออกมา “สยบข่าวลือทิ้งหุ้น” ด้วยการประกาศโชว์รายงานเข้าช้อนเก็บหุ้นผ่าน ก.ล.ต. ไปแล้ว

* ช่วงนี้ราคาหุ้นจึงเลิกเหวี่ยงผันผวนทันที แม้ปี 58 กำไรจะไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ แต่ถ้าลงทุนระยะกลาง-ยาว ต้องดักเข้าเก็บอย่างเดียวเพราะในงวดปี 59เทิร์นอะราวด์แน่นอน *
Share on Google Plus

About Admin

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 comments :

Post a Comment